chiwidetoxclinic

เมนู

Beauty and Aesthetic treatment

Botox

Botox : โบท็อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึงได้

โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีบ้างและผ่านการรับรองอย.

1.Aestox (โบท็อกซ์เกาหลี)

Aestox เป็นโบท็อกซ์ที่เพิ่งเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย ผ่านการรับรองจากอย. ไทย ตัวยามีความบริสุทธิ์ 99.5%

2.Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)

Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) เป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) จุดเด่นอยู่ที่ เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว จากประสบการณ์ของหมอในการใช้ พบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่า    โบท็อกซ์เกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อยครับ เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกซ์แบบเร่งด่วน

3.Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)

Botox Allergan เป็นบริษัทต้นแบบของโบท็อกซ์ที่มีงานวิจัยที่รับรองมากที่สุดกว่า 3,500 งาน (ตั้งแต่ปี 1989) ซึ่งทำให้เราเชื่อมั่นได้ในส่วนของส่วนประกอบโปรตีนที่ 1 และ 2 นี้ว่าได้รับการพัฒนาเพื่อลดโอกาสในการดื้อต่อโบท็อกซ์มากที่สุด และได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ โบท็อกซ์อเมริกามีประสิทธิภาพในการรักษาที่แม่นยำที่สุดและกระจายตัวอย่างแคบที่สุด แพทย์สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่ดีที่สุด โบท็อกซ์อเมริกาเหมาะสำหรับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift โดยฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อ เพื่อให้อยู่ได้นานและผลลัพธ์ที่ได้ดูธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีแพทย์ที่มีความชำนาญสูงเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น คิ้วหน้ายกขึ้นเกินไป การยิ้มที่แข็งกระด้าง หรือแก้มตอบ อาจเกิดขึ้นได้

Botox, short for Botulinum Toxin Type A, is a trade name for a neurotoxin extracted from the bacterium Clostridium Botulinum. It is commonly used in the field of cosmetic enhancement. When injected, Botox temporarily affects the nervous system, specifically the muscles, reducing muscle activity. This helps reduce wrinkles, fine lines, and sagging, resulting in a more tightened and youthful appearance.

Here are some well-known brands of Botox and their certifications:

  1. Aestox (Korean Botox):

Aestox is a newly introduced Botox brand in Thailand. It is certified by the Thai FDA, and the product has a purity level of 99.5%.

  1. Nabota (Korean Botox):

Nabota Botox, also known as Botulinum Toxin Type A, is the only Korean brand that has undergone research and received certification from the U.S. FDA (approved in 2018). It is known for its fast-acting effects, as it is developed to provide quicker results compared to other Korean Botox brands.

  1. Allergan (American Botox):

Botox by Allergan is the original Botox brand with the most extensive research, comprising over 3,500 studies since 1989. This extensive research ensures the highest level of confidence regarding the composition of proteins 1 and 2, minimizing the risk of resistance to Botox. Allergan Botox has demonstrated the most effective treatment outcomes compared to other Botox brands. It offers precise and narrow diffusion, allowing physicians to accurately predict the effects of Botox. This makes it the most accurate and targeted treatment available. Allergan Botox is suitable for procedures such as the Nefertiti lift, which involves injecting Botox into specific facial muscles for long-lasting and natural-looking results. However, it requires a highly skilled physician to avoid potential side effects such as overly raised eyebrows, a rigid smile, or a fixed cheek appearance.

Filler

Filler : การฉีดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการเสริมความงามที่ใช้สารเติมเต็มร่องตื้นและร่องลึกใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มปริมาณและฟื้นฟูให้ใบหน้าเต่งตึง ทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย การรักษาด้วยฟิลเลอร์มักใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้น เราจะเห็นผลทันทีและผลอาจยาวนานตั้งแต่หลายเดือนถึง1-2 ปีขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มและตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์

ต่อไปนี้คือปัญหาทั่วไปบางประการที่ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขได้

-ปรับเส้นรอบจมูกและปากให้เรียบ
-เสริมและฟื้นฟูวอลลุ่มให้แก้มหรือขมับ
-ลดเลือนเส้นริมฝีปากในแนวตั้ง ปรับแต่งทรงปาก
-เสริมริมฝีปากให้อวบอิ่ม
-ลดรอยพับคาง ปรับแต่งรูปคาง
-ปรับปรุงความสมมาตรของใบหน้า

 

Filler: Filler injection is a cosmetic procedure that uses substances to enhance beauty by filling in shallow and deep wrinkles beneath the skin, in order to increase volume and rejuvenate the facial appearance, resulting in a more youthful look. Filler treatments are often quick and require minimal downtime. Immediate results can be seen, and the effects can last from several months up to 1-2 years, depending on the type of filler substance and the injection site.

The following are some common issues that dermal fillers can help address:

-Refining the lines around the nose and mouth.
-Enhancing and rejuvenating sunken or hollow cheeks.
-Smoothing vertical lip lines and shaping the lips.
-Plumping the lips’ outer edges.
-Reducing chin wrinkles and contouring the chin.
-Enhancing overall facial symmetry.

 

การฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถทำได้ในหลายส่วนของใบหน้า แต่ส่วนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการฉีดฟิลเลอร์ได้แก่:

1.ร่องรอยและริ้วรอยของเส้นแกนตา (Tear Trough): เป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อลดเส้นรอยและริ้วรอยในพื้นที่ด้านล่างของตา ช่วยให้ดูสดใสและลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้
2.ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก (Nasolabial Folds): เป็นร่องลึกที่เกิดขึ้นระหว่างจมูกกับปาก การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนี้ช่วยเติมเต็มและลดริ้วรอยได้
3.ปาก (Lips): การฉีดฟิลเลอร์ในปากช่วยเพิ่มปริมาณและรูปทรงของปาก สามารถปรับรูปร่างของปาก, เพิ่มความเต่งตึง, และลดริ้วรอยรอบปากได้
4.แก้ม (Cheeks): การฉีดฟิลเลอร์ในแก้มช่วยเพิ่มปริมาณและยกกระชับแก้ม
5.คาง (Chin): การฉีดฟิลเลอร์ในคางช่วยปรับรูปร่างคางและเสริมความละมุนของใบหน้าได้

นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ เช่น จมูก, หน้าผาก แต่การเลือกฉีดฟิลเลอร์ในส่วนต่างๆขึ้นอยู่กับความต้องการและการปรึกษากับผู้ให้บริการสุขภาพ Filler ยี่ห้อไหนดีบ้างและผ่านการรับรอง อย.

Dermal filler injections can be performed in various parts of the face, but the most popular areas for dermal filler treatments include:

1.Tear Trough: This involves injecting dermal fillers under the eyes to reduce lines and wrinkles in the lower eye area, giving a refreshed appearance and minimizing under-eye dark circles.
2.Nasolabial Folds: These are deep lines that form between the nose and mouth. Dermal filler injections in this area help to fill and reduce the appearance of these folds.
3.Lips: Dermal filler injections in the lips enhance their volume and shape. They can be used to reshape, add fullness, improve firmness, and reduce wrinkles around the lips.
4.Cheeks: Dermal filler injections in the cheeks add volume and lift to the cheeks, providing a more youthful and defined appearance.
5.Chin: Dermal filler injections in the chin can help reshape and enhance the chin’s contour, as well as improve facial harmony.

Juvederm
Juvederm

Juvederm

Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากอเมริกาและมีคุณภาพที่การันตีมาโดยยาวนาน มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละส่วนของใบหน้า

Restylane
Restylane

Restylane

สำหรับ ฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับอนุญาตให้ทำการฉีดรักษาได้ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ณ ปัจจุบัน จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น ตามข้างล่างนี้ ส่วนรุ่นอื่น ๆ หากมีให้เห็น อาจจะเป็นของปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้นำเข้าอย่างถูกต้อง ซึ่งหากฉีดทำการรักษาไป จะไม่สามารถการันตีความปลอดภัยจากบริษัทยาได้

Belotero
Belotero

Belotero

Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพง ทุกคนสามารถจับต้องได้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว มี 4 รุ่นให้เลือกใช้

Neuramis
Neuramis

Neuramis

ฟิลเลอร์ Neuramis ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา เห็นผลชัดเจนหลังจากฉีดครั้งแรก โดย ฟิลเลอร์ Neuramis นั้น ถือเป็นฟิลเลอร์จากบริษัท Medyglobal ที่ได้มาตรฐานของฟิลเลอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิคที่มีคุณภาพ นอกจากรุ่นที่นิยมอย่าง Filler Neuramis Deep แล้ว ยังมีอีก 4 รุ่น รวมเป็น 5 รุ่น

Meso Fat

Meso Fat: เมโสแฟต Meso fat หรือเรียกว่า Meso Lipolysis คือการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลือง วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ลงไปในชั้นไขมันเพื่อสลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกายตามที่ต้องการ ซึ่งสารสกัดเหล่านี้จะเข้าไปทำให้ผนังไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนแตกตัวออก สลายเป็นไขมันเหลว หลังจากนั้นร่างกายจะทำหน้าที่ขับไขมันเหล่านี้ออกจากร่างกายด้วยกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ เนื่องด้วยไขมันสลายตัวจึงทำให้ร่างกายสามารถขับออกได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะถูกขับออกทางปัสสาวะและทางอุจจาระ สรุปคือ Meso fat หรือเรียกเป็นไทยว่า เมโสแฟต เป็นการสลายไขมันเฉพาะจุดนั้นเอง

ข้อดีของเมโสแฟต
1.ช่วยในการลดไขมันอย่างเร่งด่วน หรือ ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันยังลดยาก
2.ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว และ ดูเล็กลง
3.เห็นผลลัพธ์เร็ว
4.ต้องการสลายไขมันเฉพาะจุด เช่น ลดแก้ม ลดเหนียง

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

1.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: แพทย์จะประเมินว่าการฉีดเมโสแฟตเหมาะสมกับผู้รับบริการหรือไม่ โดยพิจารณาจากประวัติสุขภาพและความต้องการของผู้รับบริการเอง

2.ทำความสะอาดบริเวรที่จะฉีด: ก่อนการฉีดเมโสแฟต ผู้รับบริการควรทำความสะอาดบริเวรที่จะฉีดให้สะอาดโดยใช้สบู่อ่อนหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม

3.แปะยาชาหรือการประคบน้ำแข็ง: อาจมีการแปะยาชาหรือประคบน้ำแข็งบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต เพื่อช่วยลดอาการบวมหรือความรู้สึกอักเสบในระหว่างการรักษา

4.ผสมตัวยาในปริมาณที่เหมาะสม: แพทย์จะผสมตัวยาเมโสแฟตในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการรักษาไขมันบริเวณที่ต้องการ การผสมตัวยาให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5.ฉีดเมโสแฟตเข้าไปบริเวณที่จะสลายไขมัน: แพทย์จะฉีดเมโสแฟตเข้าไปบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น ใต้คางหรือแก้ม โดยการฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดปริมาณไขมันและเพิ่มความสม่ำเสมอให้กับผิวหน้า
หลังการฉีดเมโสแฟต ควรดูแลตัวเองด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1.หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณที่ฉีด: เพื่อป้องกันอาการอักเสบและการรบกวนบริเวณที่ฉีด เราควรหลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณนั้น

2.ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยในการสลายไขมันและขับออกผ่านปัสสาวะ ดังนั้นควรดื่มน้ำเพียงพอตามความต้องการของร่างกาย

3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาหาร: ลดการบริโภคอาหารทอดหรืออาหารที่มีไขมันสูง เพื่อป้องกันการสร้างไขมันใหม่ และควรออกกำลังกายเพื่อช่วยกระชับรูปร่าง

4.ห้ามขัดหน้าหรือนวดหน้า: เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลังฉีดเมโสแฟตควรหลีกเลี่ยงการขัดหน้าหรือนวดหน้า เลเซอร์หรือการว่ายน้ำเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์

5.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 วันหลังการฉีดเมโสแฟต และให้ตัวเองพักผ่อนให้เพียงพอ

Meso Fat, also known as Meso Lipolysis, is a procedure that involves injecting extracts from soybeans, vitamins, and various minerals into the fat layer to dissolve fat in specific areas of the body. These extracts break down the clustered fat cells, converting them into liquid form. Afterward, the body naturally eliminates the dissolved fat through its metabolic processes. Due to the fat dissolution, the body can easily eliminate it through urine and feces. In summary, Meso Fat, or in Thai, is a targeted fat reduction method.

Benefits of Meso Fat include:

  1. Accelerated fat reduction, suitable for individuals who exercise but struggle to lose fat.
  2. Facial reshaping, making the face appear slimmer and smaller.
  3. Quick results.
  4. Targeted fat reduction in specific areas such as reducing cheeks or double chin.

 

The steps involved in Meso Fat treatment are as follows:

  1. Consultation with a specialized physician: The physician will assess whether Meso Fat treatment is suitable for the individual based on their health history and desired outcomes.
  2. Cleanse the face: Before the injection, it is essential to clean the face thoroughly using mild soap or an appropriate facial cleanser.
  3. Apply herbal compress or cold compress: Applying herbal or cold compresses to the injection site can help reduce swelling or discomfort during the treatment.
  4. Prepare the appropriate dosage of the Meso Fat solution: The physician will prepare the Meso Fat solution in the appropriate dosage for the targeted fat reduction. Proper mixing of the solution is crucial to achieve the best results.
  5. Inject the Meso Fat solution into the targeted fat area: The physician will inject the Meso Fat solution into the areas where fat accumulation is present, such as under the chin or cheeks. The injection helps reduce the fat volume and provides a more even appearance to the skin.

 

After Meso Fat treatment, it is important to take care of oneself and follow these steps:

  1. Avoid pressing or massaging the injection site: To prevent inflammation and disturbance at the injection site, it is recommended to avoid pressing or massaging that area.
  2. Stay hydrated: Drinking an adequate amount of water helps dissolve fat and eliminate it through urine. Therefore, it is essential to drink enough water according to the body’s needs.
  3. Modify dietary habits: Reduce consumption of fried foods or high-fat foods to prevent the formation of new fat cells. Additionally, regular exercise can help tone the body.
  4. Avoid rubbing or massaging the face: To prevent infection, it is advised to avoid rubbing or massaging the face after Meso Fat treatment. Avoid laser treatments or swimming for approximately one week.
  5. Avoid alcohol and smoking: It is recommended to refrain from consuming alcohol and smoking for at least three days after Meso Fat treatment. Provide adequate rest and relaxation.

Meso Bright

Meso Bright: Meso Bright เป็นกระบวนการทรีตเมนต์ที่ใช้เข็มสะกิดผิวหน้าเพื่อรักษาปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอบนใบหน้า การสะกิดเข็มจะนำเอาวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าเพื่อบำรุงและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำให้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ผลที่ได้จากการทำ Meso Bright รวมถึง:

1.ผิวหน้ากระจ่างใส: การสะกิดเข็มเพื่อส่งวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าช่วยบำรุงและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ผิวหน้าจะมีความสดชื่นและเรียบเนียนมากขึ้น

2.ลดริ้วรอย: Meso Bright ช่วยลดริ้วรอยบนผิวหน้า อาทิเช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือริ้วรอยเส้นลึกที่เกิดจากสภาวะเช่นการเสียดสีผิวหรือความเครียด

3.ลดจุดด่างดำ: กระบวนการนี้สามารถช่วยลดจุดด่างดำบนผิวหน้าได้ ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งต่าง ๆ เช่นการเผชิญกับแสงแดดมากเกินไปหรือการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน

4.ผิวเรียบเนียน: เมื่อผิวหน้าได้รับการบำรุงด้วยวิตามินและสารอื่น ๆ ผิวจะดูเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

Meso Bright เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาด้านสีผิวบนใบหน้าที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ผิวหมองคล้ำ, จุดด่างดำ, รอยแดงหรือรอยดำจากสิวเก่า หรือริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้าที่ต้องการปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำ Meso Bright ควรปฏิบัติโดยแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชกรรมที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผิวหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุด ก่อนการตัดสินใจทำ Meso Bright ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำและการประเมินสภาพผิวหน้าที่ถูกต้องสำหรับบุคคลนั้น ๆ

Meso Bright is a treatment procedure that uses microneedles to address uneven skin tone issues on the face. The microneedling technique allows the delivery of vitamins into the skin, nourishing and improving its condition for a brighter and clearer complexion. Additionally, it helps reduce wrinkles and diminish dark spots.

The results achieved from Meso Bright include:

  1. Radiant complexion: Microneedling with the infusion of vitamins helps nourish and improve the skin, resulting in a brighter and more radiant complexion. The face appears refreshed and smoother.
  2. Wrinkle reduction: Meso Bright aids in reducing facial wrinkles, including fine lines and deep wrinkles caused by factors like skin discoloration or stress.
  3. Dark spot reduction: This procedure can effectively reduce dark spots on the face, which may be caused by various factors such as excessive sun exposure or hormonal changes.
  4. Smoother skin: With the skin receiving nourishment from vitamins and other substances, it appears smoother and more elastic.

Meso Bright is suitable for individuals with uneven skin tone issues on their faces, such as dullness, dark spots, redness, post-acne marks, or small wrinkles. It is beneficial for those who desire a clearer and smoother complexion.

However, it is important to note that Meso Bright should be performed by a dermatologist or a skincare professional with expertise in facial care to ensure optimal and safe results. Prior to deciding on Meso Bright, it is recommended to consult with a healthcare professional for appropriate advice and a proper assessment of the individual’s skin condition.

Anti-Mela

Anti-Mela: ทรีทเมนต์นี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านผิวหน้าเช่น ผิวหมองคล้ำ, ฝ้า, กระ และจุดด่างดำ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิวได้ดี
ประโยชน์และข้อดีของการทำทรีทเม้นท์
1. หลังทำทรีทเม้นท์ประมาณ 2 สัปดาห์ รอยหมองคล้ำ กระและฝ้าจะจางลง
2. ช่วยลดปัญหาฝ้า กระ ใบหน้าหมองคล้ำ
3. ไม่ทำให้ผิวแห้ง ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น
4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากมลพิษ

Anti-Mela: This treatment is a great option for individuals facing facial skin issues such as dark circles, freckles, melasma, and dark spots. This is because it contains components with properties that effectively rejuvenate and improve skin condition.
Benefits and Advantages of the Treatment:
1. After approximately 2 weeks of undergoing the treatment, dark circles, freckles, and melasma will visibly diminish.
2. Helps reduce issues of freckles, melasma, and dark circles on the face.
3. Does not dry out the skin, leaving it smooth, soft, and moisturized.
4. Contains antioxidants that protect the skin from pollutants.

PRP

PRP: PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการรักษาที่ใช้พื้นฐานของกระบวนการรักษาตัวเองตามธรรมชาติของมนุษย์ โดยใช้สารที่ได้จากการนำเลือดของตัวเองมาประกอบเพื่อใช้ในการฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย กระบวนการนี้จะผ่านการปั่นเลือดให้แยกชั้นพลาสมา (Plasma) โดยฉีดใช้ส่วนที่เข้มข้นสูงที่สุดที่สกัดมาจากเกล็ดเลือดในพลาสมา ซึ่งประกอบด้วยสารต่าง ๆ ที่ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด รวมถึงสารที่กระตุ้นการเจริญเติบโต (Growth Factor) ซึ่งเป็นกลุ่มโปรตีนที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย มีหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์แบ่งตัวเพิ่มขึ้น และช่วยในกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ นั่นเอง


ขั้นตอน

1.เจาะเลือดและเก็บเลือด: ผู้ป่วยจะถูกเจาะเลือดในข้อพับเพื่อเก็บเลือด ประมาณเลือดที่เก็บอาจมีประมาณ 8-10 ซีซี
2.ใส่เลือดใน BCT Tube: เลือดที่เก็บไว้จะถูกใส่ในหลอด BCT Tube (Blood Cell Therapy) ที่มีสารต้านการแข็งตัวของเลือดอย่าง Sodium Citrate ซึ่งช่วยให้เกล็ดเลือดไม่แข็งตัว และปลอดภัยในกระบวนการ
3.การปั่นเลือด: BCT Tube ที่มีเลือดถูกนำไปปั่นผ่านเครื่องเหวี่ยงสาร (Centrifuge) เพื่อแยกส่วนของเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นและสาร Growth Factor สูงออกมา
4.แยก PRP: หลังจากการปั่นเสร็จสิ้น แพทย์จะแยกส่วนของเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นและสาร Growth Factor สูงออกมาเป็น PRP
5.การฉีด PRP: PRP จะถูกฉีดโดยใช้เข็มฉีดลงในส่วนที่ต้องการรักษา เช่น ผิวหน้าหรือบริเวณศีรษะ ซึ่ง PRP จะช่วยในการฟื้นฟูและรักษาส่วนที่ต้องการให้มีสภาพดีขึ้น


เหมาะกับใคร

การใช้ PRP (Platelet Rich Plasma) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาและปรับปรุงสภาพผิวหน้า โดยเฉพาะอาการผิวหมองคล้ำ (hyperpigmentation) ฝ้า (melasma) กระ (freckles) หรือจุดด่างดำ (dark spots) ที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใสขึ้น รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าหลังจากการทำความสะอาดหรือการรักษาทางเคมีที่กระทบต่อผิวหน้าไป

นอกจากนี้ การใช้ PRP ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและเส้น wrinkles บนใบหน้า รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวหน้าที่สูญเสียไป เช่น ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น การแก่ขึ้น หรือการเครียดต่อเนื่อง

PRP (Platelet Rich Plasma): This treatment is a natural-based option that harnesses the body’s own healing process. It involves using substances derived from your own blood, which are then injected back into the body. The process involves spinning the blood to separate the plasma and concentrating the platelets, which contain various growth factors. These growth factors stimulate cell division, promote tissue repair, and help the body heal itself.

Steps:
1.Blood Extraction: The patient’s blood is drawn from a vein, usually from the arm, and a small amount of blood (approximately 8-10 cc) is collected.
2.Blood Placed in BCT Tube: The collected blood is placed in a BCT Tube (Blood Cell Therapy) containing an anticoagulant like Sodium Citrate, preventing blood clotting and ensuring safety during the procedure.
3.Blood Spinning: The BCT Tube is centrifuged to separate the concentrated platelet-rich plasma from the rest of the blood.
4.Separation of PRP: After spinning, the physician separates the concentrated PRP, which contains a high concentration of growth factors.
5.PRP Injection: PRP is then injected using a fine needle into the targeted area, such as the face or scalp, to help rejuvenate and improve the condition of the treated area.

Suitability:
PRP is suitable for individuals seeking to enhance their facial skin condition, especially those with concerns like hyperpigmentation, melasma, freckles, or dark spots, and aiming to achieve clearer and more radiant skin. It’s also beneficial for individuals recovering from chemical peels or other harsh treatments that may have affected the skin. Additionally, PRP is suitable for reducing wrinkles and fine lines on the face, as well as for restoring facial elasticity lost due to natural aging or continuous stress.

Neoglutanex

Neoglutanex : Neo Glutanex Glow เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมาเพื่อช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส และมีคุณสมบัติดังนี้:

-การป้องกันสิวที่เกิดจากการสวมแมสและมลภาวะ

-ช่วยให้ผิวเนียนขาวใสและแต่งหน้าที่ติดทน

-ประกอบด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพเช่น Glutathione ที่เปลี่ยนเม็ดสีดำคล้ำให้ขาวชมพูขึ้นทันที

-มี Purified PDRN 2% ที่ฟื้นฟูผิวระดับ DNA

-มีส่วนผสมของ Peptide + Vitamins Complex เพื่อเติมอาหารให้ผิวและช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว

-มี Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความอิ่มฟูและชุ่มชื้นให้ผิวฉ่ำวาว

-มี Hydrolyzed Collagen เพื่อผิวแน่นฟูและลดรูขุมขนเล็กลง

-มี Premium Growth Factors เพื่อฟื้นฟูริ้วรอย ฝ้ากระ และหลุมสิวจากกลไกธรรมชาติ

-มี Argireline + Adenosine เพื่อลดริ้วรอยในเวลาเร็ว ๆ ในเวลา 3 วัน

Neo Glutanex Glow ถูกผลิตในประเทศเกาหลีใต้และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาเกาหลีใต้ (KFDA) และอย.ไทย

ในขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนรับบริการ Neo Glutanex Glow:

-ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

-แจ้งให้แพทย์ทราบถ้ามีการแพ้ยา แพ้อาหาร โรคประจำตัว มีการรับประทานยาหรืออาหารเสริมประจำ

หลังจากได้รับบริการ Neo Glutanex Glow:

-หลีกเลี่ยงการนวดผิวบริเวณที่ทำทันทีและงดทาครีมบริเวณรอยเข็มในช่วงคืนแรก

-ห้ามล้างหน้าประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังจากทำเสร็จเพื่อให้ผิวดูดซับตัวยา

-งดใช้ครีมที่มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่งหรือครีมหน้าขาว

-งดออกแดดแรงๆ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง

-ควรใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสมเพื่อช่วยฟื้นฟูผิว

-หากเกิดรอยแดงหรือช้ำจากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ รอยแดงเหล่านี้จะหายไปในช่วง 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Neo Glutanex Glow is a product designed to help improve skin complexion and provide the following benefits:

  1. Preventing acne caused by wearing masks and pollution.
  2. Promoting smooth, clear, and long-lasting makeup.
  3. Contains effective ingredients such as Glutathione, which instantly lightens dark spots.
  4. Contains Purified PDRN 2% to rejuvenate the skin at the DNA level.
  5. Contains Peptide + Vitamins Complex to nourish the skin and aid in the cell renewal process.
  6. Contains Hyaluronic Acid to increase skin hydration and plumpness.
  7. Contains Hydrolyzed Collagen to firm the skin and reduce fine lines and wrinkles.
  8. Contains Premium Growth Factors to repair wrinkles, melasma, and acne scars naturally.
  9. Contains Argireline + Adenosine to quickly reduce the appearance of wrinkles within 3 days.
  10. Manufactured in South Korea and certified by the Korean Food and Drug Administration (KFDA) and the Thai FDA.

Before receiving the Neo Glutanex Glow treatment, it is advisable to:

  1. Research and consult with a healthcare professional before undergoing the procedure.
  2. Inform the healthcare professional about any allergies, food allergies, chronic illnesses, or regular medication and supplements.

 

After receiving the Neo Glutanex Glow treatment, it is recommended to:

  1. Avoid massaging the treated area immediately and avoid applying creams to the needle marks on the first night.
  2. Avoid washing the face for approximately 4-6 hours after the treatment to allow the skin to absorb the medication.
  3. Avoid using whitening creams or creams that lighten the complexion.
  4. Avoid direct sun exposure for 48 hours.
  5. Use moisturizers with added vitamins to help restore the skin.
  6. If there are any redness or bruising from the needle marks, follow the physician’s advice on applying cold compresses. These red marks should disappear within 1-3 days, depending on individual skin conditions.

Exosome

Exosome : Exosome (เอ็กโซโซม) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้สกัดสารจากสเต็มเซลล์บริสุทธิ์ให้เป็นขนาดเล็กมาก อยู่ในช่วง 30-120 นาโนเมตร ซึ่งมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่สำคัญดังนี้:

1.ความหลากหลายของสารชีวโมเลกุล: Exosome มีสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด เช่น Cytokines, Growth factors, MicroRNA, Genetic information และโปรตีนอีกหลายชนิด ทำให้มีความสามารถในการกระตุ้นและซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในระบบต่างๆของร่างกาย เช่น ใบหน้า, ระบบรากผม, และหนังศีรษะ

2.ขนาดเล็ก: Exosome มีขนาดเล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดถึง 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งทำให้ Exosome สามารถเข้าถึงเซลล์ต่างๆในร่างกายได้ดีกว่า และสามารถแทรกผ่านชั้นเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ความเข้าถึงแม่เหล็กเซลล์: Exosome มีความสามารถในการเข้าถึงแม่เหล็กเซลล์ ทำให้สามารถกำหนดปริมาณที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆของร่างกายได้

4.คุณสมบัติการฟื้นบำรุง: Exosome มีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นบำรุงและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆให้กลับมาทำงานได้อย่างแข็งแรง ซึ่งมีผลทำให้ผิวดูเด็กลง, สดใส, โกลว์ฉ่ำ, ริ้วรอยจางลง, ผิวเนียนละเอียดขึ้น และแข็งแรงขึ้น

5.กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่: Exosome กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรง ลดการแพ้และการอักเสบของผิว

6.กระตุ้นคอลลาเจน: Exosome กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับขึ้น

7.ชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว: Exosome ช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว และกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ

8.เพิ่มความชุ่มชื้น: Exosome เติมความชุ่มชื้นและเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิวดูมีออร่าและสุขภาพดี

Exosome เป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์ในการดูแลและฟื้นฟูระบบต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะในการฟื้นฟูผิวหน้าและระบบรากผม ซึ่งมีผลช่วยให้ผิวดูสมบูรณ์และมีความเปล่งปลั่งมากขึ้น

Exosomes are medical innovations that involve extracting substances from pure stem cells and reducing them to very small sizes, ranging from 30 to 120 nanometers. They possess important characteristics and benefits, including:

  1. Variety of Bioactive Molecules: Exosomes contain over 1,000 types of bioactive molecules, such as cytokines, growth factors, microRNA, genetic information, and various proteins. This allows them to stimulate and repair different cells within various systems of the body, including the face, hair follicles, and scalp.
  2. Small Size: Exosomes are smaller than PM 2.5 particles, which measure up to 2.5 micrometers. This enables exosomes to have better access to various cells in the body and efficiently penetrate through tissue layers.
  3. Access to Cellular Microenvironment: Exosomes have the ability to access the cellular microenvironment, allowing for precise targeting of problem areas throughout the body.
  4. Restorative Properties: Exosomes possess properties that help restore and rejuvenate cells, resulting in a more youthful, radiant, glowing, and firm appearance of the skin. They also help reduce the appearance of wrinkles and improve skin texture.
  5. Stimulation of New Skin Cell Formation: Exosomes stimulate the generation of new skin cells and restore the functioning of skin cells, reducing sensitivity and inflammation.
  6. Collagen Stimulation: Exosomes promote collagen production in the skin, improving elasticity and firmness.
  7. Delayed Cellular Aging: Exosomes help slow down cellular aging and boost the performance of antioxidants.
  8. Increased Hydration: Exosomes enhance moisture and provide a plump, healthy appearance to the skin.

 

Exosomes are an innovative approach for maintaining and restoring various systems within the body, especially in facial rejuvenation and hair follicle systems. They contribute to improving the overall appearance and vitality of the skin, resulting in a more radiant and youthful complexion.

Rejuran

Rejuran : Rejuran (รีจูรัน) เป็นเทคโนโลยีทางเวชกรรมที่มีประโยชน์ในการฟื้นฟูผิวหน้า โดยมีส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์) ที่สกัดจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอนในทะเล โดยมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์ การฉีด Rejuran เข้าสู่ชั้นหนังแท้จะช่วยให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง ลดริ้วรอย และปรับสภาพสีผิวให้ดูสดชื่นได้อย่างเร่งรัด

Rejuran มีประโยชน์ดังนี้:

1.ฟื้นฟูผิว: ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูความแข็งแรงของผิวจากภายใน ลดริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอ แก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพตามอายุ เช่น ริ้วรอย, แผลเป็น, รูขุมขนกว้าง รอยแดงและรอยคล้ำ เป็นต้น

2.เพิ่มความยืดหยุ่น: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อฟื้นฟูผิวหนังแท้ให้แน่นหนาขึ้น ช่วยซ่อมแซมผิวจากภายใน และลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้า

Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่:

-ต้องการผิวหน้าที่สมบูรณ์และเรียบเนียนแบบธรรมชาติ

มีอายุเพิ่มขึ้น และพบปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการผิวหน้าที่เต่งตึงและดูสดชื่น

-ต้องการผิวหน้าที่ดีขึ้นจากเดิม ลดริ้วรอยให้เล็กลง

สำหรับการฉีด Rejuran จำนวนครั้งและเวลาในการเห็นผลขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละคน แต่โดยทั่วไปจะฉีด Rejuran จำนวน 4 ครั้ง ห่างกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การดูแลหลังการฉีด Rejuran:

-เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น

งดหรือลดการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ผิวหน้ามีความหมองคล้ำเร็ว

-ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และสุขภาพดี

-ประคบเย็นหากเกิดรอยแดง ช้ำ จากเข็มฉีด ตามคำแนะนำของแพทย์

หากมีปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังการฉีด สามารถกินยาแก้ปวดได้

-อยู่ในอากาศเย็น ๆ เพื่อลดอาการบวมเข็มได้เร็วขึ้น

Rejuran is a medical technology that is beneficial for facial rejuvenation. It primarily consists of Polynucleotide, extracted from DNA fragments of salmon in the sea. It possesses properties similar to human DNA. Injecting Rejuran into the dermis helps strengthen the facial skin, reduce wrinkles, and improve the overall complexion, making it appear fresher and tighter.

The benefits of Rejuran include:

  1. Skin Restoration: It stimulates the skin’s internal rejuvenation process, reducing facial wrinkles and addressing age-related skin concerns such as fine lines, scars, enlarged pores, redness, and dullness.
  2. Increased Elasticity: Rejuran promotes the production of new collagen to restore the density and thickness of the dermis. It repairs the skin from within and reduces small wrinkles on the face.

Rejuran is suitable for individuals who:

– Desire a complete and naturally smooth complexion.

– Experience dry and rough skin due to aging and seek firmer and more vibrant skin.

– Wish to improve their current skin condition and minimize the appearance of wrinkles.

The number of Rejuran injections and the time required to see results may vary for each individual. However, generally, Rejuran is administered about four times, with intervals of approximately 2-3 weeks between sessions, to achieve the best outcomes.

Post-treatment care for Rejuran includes:

– Avoiding alcoholic beverages, as they may dehydrate the skin.

– Quitting or reducing smoking, as it can cause premature skin aging.

– Drinking an adequate amount of water to enhance skin hydration, resulting in a plump, clear, and healthy appearance.

– Applying cold compresses to reduce redness and swelling at the injection sites, following the advice of the physician.

– Taking pain relievers if experiencing discomfort or soreness around the injection sites on the first night after the treatment.

– Spending time in cool air to expedite the reduction of needle-induced swelling.

Thread Lifting

Thread Lifting : การร้อยไหมหรือ Thread Lift เป็นกระบวนการที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยใช้เส้นไหมเส้นเล็กจำนวนมากเพื่อร้อยเป็นเครือข่ายใต้ผิวหนัง ร้อยไหมสามารถทำได้โดยใช้ไหมละลายหลายชนิด เช่น PDO (Polydioxanone), PCL (Polycaprolactone), และ PLLA (Poly-L-lactic acid) โดยใช้ไหมชนิดต่าง ๆ ตามจุด

ประเภทของร้อยไหมที่ต้องการดังนี้:

1.เส้นไหมเรียบ (Mono threads): เส้นไหมเรียบไม่มีเงี่ยงหรือปุ่มเหรียญ ใช้สำหรับยกกระชับและดึงหน้า บริเวณที่ใช้งานบ่อย ๆ เช่นคอ หน้าฝาก และใต้ตา ส่วนเส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
2.เส้นไหมเกลียว (Screw threads): เส้นไหมเกลียวมีรูปแบบเส้นเดียวหรือสองเส้นที่เกลียวเข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มปริมาณบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือมีแอ่ง ส่วนเส้นไหมเกลียวจะให้ผลที่แข็งแรงกว่าเส้นไหมเรียบ มักใช้สำหรับยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยาน
3.เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads): เส้นไหมเหล่านี้มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อยึดเกาะชั้นผิวหนังภายใน ช่วยให้เกิดการยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะสำหรับการยกกระชับบริเวณคางและปรับรูปหน้าให้เรียวการร้อยไหมนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตเพื่อเลี้ยงชั้นผิวหนังอีกด้วย

การร้อยไหมหรือ Thread Lift ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์ต่อไปนี้:

1.ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย: กระบวนการร้อยไหมช่วยยกกระชับและดึงหน้าให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและทำให้มีรูปหน้าที่เรียวขึ้นได้
2.ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน: เปรียบเสมือนการร้อยโดยใช้เส้นไหมเส้นเล็กที่ร้อยเป็นโคร่งข่ายใต้ผิวหนัง ไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน ผู้ปฏิบัติการสามารถดำเนินกระบวนการในเวลาสั้น ๆ และคุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
3.ผลข้างเคียงน้อย: การร้อยไหมมีผลข้างเคียงน้อยกว่ากระบวนการร้อยใบหน้าที่ใช้เทคนิคอื่น ๆ เนื่องจากไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ นอกจากนี้ ความเสี่ยงของการติดเชื้อและแผลเปิดก็จะลดลงเช่นกัน
4.ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะแสดงออกมาในลักษณะธรรมชาติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างหน้ามากนัก ดังนั้นผู้คนในบริเวณรอบตัวจะรู้สึกว่าคุณดูสดใสและเป็นธรรมชาติ
5.เวลาฟื้นตัวที่เร็ว: หลังจากการร้อยไหม คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ ไม่ต้องมีช่วงเวลาฟื้นตัวที่ยาวนาน
6.ผลอยู่ตัวนาน: เส้นไหมที่ใช้ในกระบวนการนี้เมื่อถูกซึมซับและละลายภายในร่างกาย จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ได้รับสามารถคงอยู่ได้นานขึ้น ประมาณ 6-8 เดือน

การร้อยไหมเหมาะกับใคร ?

-ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาในเรื่องของความหย่อนคล้อยเล็กน้อยจนถึงมาก
-ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าระดับเล็กน้อยจนถึงปานกลาง
-ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าเรียวได้รูป มีมิติ
-สัดส่วนของใบหน้ายังไม่สมมาตร ข้างใดข้างหนึ่งไม่เท่ากัน

Thread Lifting: also known as Thread Lift, is a non-surgical procedure that doesn’t require major surgery or long recovery times. It’s designed to lift and reshape the face using numerous small threads that create a supportive network beneath the skin. Thread lifting can be performed using various types of dissolvable threads, such as PDO (Polydioxanone), PCL (Polycaprolactone), and PLLA (Poly-L-lactic acid), based on the targeted areas and types of results desired.

Different types of threads used in Thread Lifting include:

1.Mono Threads: Smooth threads without barbs or cones, used to lift and tighten frequently treated areas like the neck, nasolabial folds, and under-eye area.
2.Screw Threads: Threads with a helical or dual helical shape, used to increase volume in sagging or creased areas.
3.Cog Threads: Threads with barbs along their length to anchor and lift the skin, stimulating collagen production.

Benefits of Thread Lifting:

1.Reshape Face for a Slim and Beautiful Look: Thread lifting helps tighten and lift the face, resulting in improved facial contours and reduced wrinkles, without the need for major surgery.
2.No Surgery and Shorter Recovery Time: Thread lifting involves using fine threads that create a lattice under the skin, avoiding the need for extensive surgery and allowing for a faster recovery. The procedure can be performed quickly, and patients can resume daily activities swiftly.
3.Fewer Side Effects: Thread lifting has fewer side effects compared to traditional facelifts, as it avoids major incisions. The risk of infection and open wounds is reduced.
4.Natural-Looking Results: The results of thread lifting appear natural, without drastic changes to facial features. People around you will notice a fresher and natural appearance.
5.Quick Recovery: After thread lifting, you can return to your daily activities without a lengthy recovery period.
6.Long-Lasting Results: Over time, the threads used in thread lifting stimulate collagen production, extending the longevity of the results, typically lasting around 6-8 months.

Thread lifting is suitable for individuals who:

-Are aged 30 and above and experience mild to moderate facial sagging.
-Seek a subtle lift for minor to moderate facial sagging.
-Desire facial contouring and reshaping for a more defined appearance.
-Have slightly asymmetrical facial proportions on one side of the face.

Venus Freeze

Venus Freeze: Venus Freeze คืออะไร ?

วีนัส ฟรีซ (Venus Freeze) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า ลำคอ และยังสามารถช่วยลดปัญหาเซลลูไลท์ กระชับสัดส่วน บริเวณหน้าท้อง เอว และต้นขา Venus Freeze ทำงานโดยส่งคลื่นความถี่วิทยุแบบหลายขั้ว 8 ขั้ว พร้อมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลงสู่ใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน

Venus Freeze เหมาะกับใคร ?

Venus Freeze เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย และกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง เอว และต้นขา ตลอดจนช่วยลดปัญหาเซลลูไลท์ตามลำตัว

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรรักษาต่อเนื่องประมาณ 4-6 ครั้ง สำหรับบริเวณใบหน้า ลำคอ และประมาณ 6-8 ครั้ง สำหรับบริเวณลำตัว และต้นขา โดยใช้เวลาแต่ละครั้ง ประมาณ 25-30 นาที เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หลังการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น

Venus Freeze ทำงานอย่างไร

เป็นการนำเอาเทคโนโลยีของการสลายไขมันกับยกกระชับมาทำงานร่วมกันคือ

PMF (Pulsed Magnetic Field) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่จะช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายทำงานดีขึ้น ด้วยการขยายเส้นเลือดฝอย ทำให้เซลล์ไขมันหดตัวลงแล้วสลายเป็นน้ำออกมาตามเหงื่อและปัสสาวะ

Lypolsis เป็นการขับไขมันเซลลูไลท์ให้ออกจากร่างกายและจะไม่กลับมาเป็นอีก นอกจากจะรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเข้าไป จนกลับเข้ามาสะสมตามจุดต่างๆ ในร่างกายใหม่

การเตรียมตัวก่อนการรักษาด้วย Venus Freeze

-ต้องถอดเครื่องประดับหรือวัสดุที่เป็นโลหะออกทั้งหมด

-ในบริเวณที่จะทำการรักษาด้วย Venus Freeze จะต้องทำความสะอาดให้ปราศจากเครื่องสำอางหรือครีมใดๆ ทั้งสิ้น

-ทากลีเซอรินตรงบริเวณที่จะทำให้ทั่วก่อนลงมือรักษา

การดูแลตนเองหลังการรักษาด้วย Venus Freeze

เราสามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรตามปกติได้ทันที โดยหลังการทำ 30 นาที มักจะมีการเก็บภาพหรือวัดสัดส่วนก่อนทำและหลังทำไว้ เพื่อให้เห็นผลของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

Venus Freeze is a technology used to reduce wrinkles and tighten sagging skin on the face, neck, and other areas of the body. It also helps reduce cellulite and tighten proportions in the abdominal, waist, and leg areas. Venus Freeze works by delivering multi-polar radiofrequency waves through 8 poles, along with pulsed electromagnetic waves, to stimulate collagen production.

Venus Freeze is suitable for individuals who want to reduce wrinkles and tighten sagging skin on the face, neck, abdomen, waist, and legs, as well as address cellulite issues throughout the body.

For optimal results, it is recommended to undergo approximately 4-6 sessions for the face and neck, and about 6-8 sessions for the body and legs. Each session takes around 25-30 minutes, and it is typically advised to have one session per week. After the treatment, there is no downtime, and individuals can return home immediately without the need for recovery.

Venus Freeze combines the technologies of fat reduction and skin tightening:

  1. Pulsed Magnetic Field (PMF): This is an electromagnetic wave that improves the body’s metabolic processes by expanding the capillaries, helping fat cells shrink and dissolve into fluids that are eliminated through sweat and urine.
  2. Lypolysis: This process involves driving out the dissolved fat cells (cellulite) from the body, preventing them from returning. It is important to avoid consuming high-fat foods that can cause fat accumulation in different areas of the body.

Before undergoing Venus Freeze treatment, it is necessary to remove all jewelry or metal objects. The treatment area should be clean and free from any cosmetics or creams. A gel or serum is typically applied to the treatment area before starting the procedure.

After the treatment, individuals can resume their regular activities immediately. Often, before and after photos or measurements are taken to monitor the visible changes more effectively.

Venus Legacy

Venus Legacy: Venus Legacy เป็นทรีทเมนท์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับคุณที่ต้องการกำจัดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและไขมันส่วนเกิน ด้วยการใช้คลื่น Radio Frequency ที่กระจายความร้อนไปยังผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดการสังเคราะห์คอลลาเจนและไฟโบรบลาส พร้อมกับกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพื่อช่วยลดไขมันและกระชับสัดส่วนให้กับผิวและรูปร่างของคุณให้ดูดีขึ้นได้

สิ่งที่ทำให้ Venus Legacy โดดเด่นคือการให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นอันดับต้น ๆ การรักษาที่ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด รวมถึงไม่ต้องมีเวลาในการฟื้นตัวจากการทำทรีทเมนท์นานเกินไป มันเหมาะแก่ทุกสภาพผิวและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานในระยะยาว สามารถใช้กับทุกบริเวณของร่างกาย เช่นใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา

สำหรับจำนวนครั้งของการทำทรีทเมนท์ นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจสอบประวัติและสภาพผิวของคุณเพื่อกำหนดกระบวนการรักษาที่เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

อย่างสำคัญที่สุดคือ Venus Legacy เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการใช้ในทางการแพทย์มานานหลายปีแล้ว ดังนั้นคุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยแน่นอน

การดูแลรักษาและข้อควรระวัง

-ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้าท้อง ควรรับประทานอาหารมาก่อนอย่างน้อย 30 นาที

-ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้า ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์มาก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์*

-ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้า ควรเว้นระยะห่างจากการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 เดือน*

-ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้า ควรเว้นระยะห่างจากการร้อยไหมละลายอย่างน้อย 1-3 เดือน*

Venus Legacy is a highly appealing treatment for those who want to address issues such as sagging skin and excess fat. It utilizes Radio Frequency waves that uniformly distribute heat to the skin, stimulating collagen synthesis and fibroblast activity while enhancing blood circulation. This helps reduce fat and tighten the skin, resulting in an improved appearance.

What sets Venus Legacy apart is its advanced technology, safe and painless treatment, and minimal downtime. It is suitable for all skin types and provides long-lasting results. It can be used on various body areas, including the face, neck, abdomen, arms, and legs.

The number of treatment sessions varies depending on individual skin condition and concerns. A qualified physician will assess your skin history and condition to determine the most suitable treatment plan for optimal results.

Most importantly, Venus Legacy is a certified and effective technology that has been used in the medical field for many years. You can have confidence in receiving safe and effective results.

Here are some care instructions and precautions to consider:

– If receiving treatment on the abdominal area, it is recommended to have a meal at least 30 minutes before the session.

– If receiving treatment on the face, it is advisable to avoid laser treatments for at least 2 weeks prior.

– If receiving treatment on the face, it is recommended to wait at least 1 month after Botox or filler injections.

– If receiving treatment on the face, it is advisable to wait for 1-3 months after undergoing micro-needling.

Hair Removal Diode Laser

Hair Removal Diode Laser: Diode laser คืออะไร

ไดโอด เลเซอร์ หรือ Diode Laser คือ เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมัน เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เลเซอร์ยิงกำจัดขนแบบถอนรากถอนโคน โดยไม่ทิ้งร่องรอยของการกำจัดขนและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด นอกจากจะช่วยกำจัดขนแบบถาวรแล้ว ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้ผิวหนังบริเวณที่ถูกกำจัดขนเรียบเนียนและดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งเลเซอร์กำจัดขนส่วนใหญ่จะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าและมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีกำจัดขนอื่นๆ ทำให้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้ที่รักสวยรักงามในยุคปัจจุบัน

ต้องทำ Diode laser กี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การทำ Diode laser เพื่อลบขนของมนุษย์จะต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน จำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปริมาณและลักษณะของขนของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสีผิวและความอ่อนแข็งของเส้นขนด้วย

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือควรทำ Diode laser อย่างน้อย 5-8 ครั้ง และควรเว้นระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ระหว่างการทำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำดังกล่าวอาจเป็นไปได้ตามเส้นขนที่มีอายุและความแข็งแรงต่างกัน การทำ Diode laser เมื่อเส้นขนยังอ่อนอยู่อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ในทางกลับกัน เส้นขนที่ไม่เคยได้รับการทำ Diode laser มาก่อนอาจต้องใช้จำนวนครั้งที่มากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น

Diode laser เจ็บไหม อยู่ได้นานแค่ไหน

การยิง Diode Laser ไม่เจ็บ ไม่เบิร์นแต่อาจมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ) หลังจากทำแล้วอาจจะมีอาการระคายเคือง บวม หรือแดงแล้วจะค่อยๆหายไปเอง ส่วนการทำ Diode laser จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับลักษณะเส้นขน ปริมาณเส้นขน สีผิว บริเวณที่กำจัดขนและจำนวนครั้งที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่โดยรวมจะอยู่ได้นานกว่าการกำจัดขนประเภทอื่นๆอย่างแน่นอน

ทำ Diode laser แต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างนานแค่ไหน?

การทำ Diode laser ควรเว้นระยะห่างทุกๆ 4-6 สัปดาห์ โดยขนจะหลุดทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์และใน 2-4 สัปดาห์แรกจะมีขนอ่อนเกิดขึ้นใหม่แต่จะมีปริมาณน้อยลงและเส้นขนอ่อนลง

ก่อนทำ Diode laser ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ:

-หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหรือการอาบแดดนานๆ เพื่อป้องกันอาการผิวแห้งและการไหม้ของผิว ควรทำเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการทำเลเซอร์

-หลีกเลี่ยงการทำทรีทเม้นต์ขัดผิวหรือลอกผิว รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA ซึ่งอาจทำให้ผิวบางและแสบร้อน ควรหยุดใช้ก่อนการทำเลเซอร์ประมาณ 1 สัปดาห์

-อย่ากำจัดขนโดยการถอนหรือแวกซ์ก่อนทำ Diode laser หากต้องการกำจัดขน ควรใช้วิธีการโกนเพื่อรักษารากขนเอาไว้สำหรับการยิงเลเซอร์และป้องกันอาการรูขุมขนอักเสบ

หลังการทำ Diode laser คุณควรดูแลตัวเองดังนี้:

-หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมที่มีความร้อนสูง เช่น การอาบแดด การอบซาวน่า การอบไอน้ำ เพื่อป้องกันการสะเก็ดหน้าผิวรวมทั้งเพิ่มความไวต่อการไหม้

-หากมีอาการระคายเคือง บวม แดง หรือรู้สึกแสบร้อนในช่วง 2-3 วันแรก คุณสามารถประคบเย็นบรรเทาอาการอักเสบได้

-หลังจากทำเลเซอร์ประมาณ 2-3 วัน ห้ามทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของกรด AHA หรือทำการขัดผิว และหากต้องการกำจัดขนรักแร้ให้งดการใช้สารระงับกลิ่นไปก่อน

-หลีกเลี่ยงการกำจัดขนที่ขึ้นใหม่ด้วยวิธีการถอนหรือแวกซ์ ถ้าคุณต้องการกำจัดขนให้ใช้วิธีการโกนเท่านั้น

-เพื่อให้ผลลัพธ์มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว คุณควรปฏิบัติการรักษาตามที่แพทย์แนะนำอย่างต่อเนื่อง

Diode laser, or Diode Laser Hair Removal, is a modern laser technology for hair removal developed in Germany. It is an innovative method that uses laser beams to target and remove hair by pulling out the roots without leaving any trace or causing pain. In addition to providing long-lasting hair removal, it also stimulates collagen production under the skin, resulting in smoother and more radiant skin in the treated area. Diode laser hair removal generally offers longer-lasting and more effective results compared to other hair removal methods, making it highly popular among individuals who prioritize beauty and aesthetics in the current era.

The number of sessions required for Diode laser hair removal to achieve visible results depends on the quantity and characteristics of each individual’s hair. It also depends on their skin color and the thickness of the hair strands. However, the recommendation from medical experts is to undergo a minimum of 5-8 sessions of Diode laser hair removal, with intervals of 4-6 weeks between each session, in order to achieve clear and effective results.

The number of sessions may vary depending on the age and strength of the hair strands. Performing Diode laser hair removal when the hair is still in its growth stage may yield better results. Conversely, hair strands that have not been previously treated with Diode laser may require more sessions to achieve noticeable and clear results.

Is Diode laser painful, and how long does the discomfort last?

The process of undergoing Diode Laser Hair Removal is not painful and does not cause burns. However, there may be slight discomfort during the procedure, depending on the area being treated. After the procedure, some individuals may experience mild redness, swelling, or sensitivity, which gradually subsides. As for the duration of discomfort, it varies depending on the characteristics of the hair, the quantity of hair, skin color, and the previously performed number of sessions. Generally, Diode laser hair removal offers longer-lasting results compared to other hair removal methods.

How long should you wait between each Diode laser session?

It is recommended to wait for a period of 4-6 weeks between each Diode laser hair removal session. All the hair will shed within the first week, and during the first 2-4 weeks, new, thinner hair may start to grow, but in reduced quantities.

Before undergoing Diode laser hair removal, it is advisable to follow the following precautions for a safe and effective treatment:

– Avoid outdoor activities and prolonged sun exposure to prevent dryness and skin burns. It is recommended to avoid such activities for at least 1 week before the laser treatment.

– Avoid exfoliating or peeling treatments and skincare products containing AHA acids, as they can thin and sensitize the skin. It is advisable to stop using such products approximately 1 week before the laser treatment.

– Do not remove or wax the hair before undergoing Diode laser hair removal. If you need to remove hair, it is recommended to shave it, preserving the hair roots for the laser treatment and preventing folliculitis.

– After the procedure, if you experience discomfort, swelling, redness, or a burning sensation in the first 2-3 days, you can apply cold compresses to alleviate the inflammation.

– Avoid applying skincare products containing AHA acids and refrain from exfoliating the skin for 2-3 days after the laser treatment. If you want to remove fine, residual hair, refrain from using depilatory creams for a while.

– To ensure clear and effective long-term results, it is important to consistently follow the recommended post-treatment care instructions provided by your physician.