การร้อยไหม (Thread Lift) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติและใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
การร้อยไหมคืออะไร?
การร้อยไหมคือหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้ไหมละลายซึ่งมีเงี่ยง (Barbs) หรือปุ่ม (Cones) ขนาดเล็กพิเศษสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังใต้ผิวหนัง เพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือนโครงสร้างในการดึงและยกผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น นอกจากนี้ เส้นไหมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินรอบๆ บริเวณที่ร้อย ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประเภทของไหมที่นิยมใช้
การร้อยไหมเพื่อเสริมความงามเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ โดยหลักๆ แล้วสามารถแบ่งประเภทของไหมที่ใช้ได้หลายแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การแบ่ง เช่น วัสดุที่ใช้ผลิตไหม ลักษณะของเส้นไหม หรือผลลัพธ์ที่ต้องการ
1. การแบ่งตามวัสดุของเส้นไหม (ไหมละลาย)
ปัจจุบันไหมที่ใช้ในการร้อยส่วนใหญ่เป็น ไหมละลาย (Absorbable Threads) ซึ่งปลอดภัยและจะสลายไปเองตามธรรมชาติ โดยวัสดุที่นิยมใช้มีดังนี้:
ไหม PDO (Polydioxanone): เป็นวัสดุที่นิยมใช้มานาน มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี มีหลายรูปแบบ
ไหม PLLA (Poly-L-lactic Acid): เป็นวัสดุที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีและให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่าไหม PDO
ไหม PCL (Polycaprolactone): เป็นไหมที่สลายตัวช้าที่สุด จึงให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และมีความยืดหยุ่นสูง

2. การแบ่งตามลักษณะของเส้นไหม
ลักษณะของเส้นไหมเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดผลลัพธ์ในการยกกระชับ ซึ่งสามารถแบ่งได้หลายแบบ ได้แก่:
ไหมแบบเรียบ (Mono Threads): เป็นเส้นไหมเรียบๆ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่ม ใช้จำนวนเส้นไหมค่อนข้างมาก โดยเน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวเต่งตึงและช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ เหมาะสำหรับบริเวณคอ, ใต้ตา หรือหน้าผาก
ไหมแบบเกลียว (Screw/Tornado Threads): เป็นไหมแบบมีเกลียวรอบเส้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยเติมเต็มปริมาตรผิวให้ดูฟูขึ้นเล็กน้อย
ไหมแบบมีเงี่ยง (Barbed/Cog Threads): เป็นไหมที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับการยกกระชับ มีเงี่ยงคล้ายหนามหรือก้างปลาตามแนวเส้นไหม ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวและล็อกเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เพื่อดึงและยกผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นอย่างชัดเจน
ไหมแบบกรวย (Silhouette Soft): เป็นไหมชนิดพิเศษที่มีกรวยหรือปมเล็กๆ เป็นระยะๆ ช่วยในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่แข็งแรงและยาวนาน

3. การแบ่งตามวัตถุประสงค์ในการรักษา
นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งการร้อยไหมตามวัตถุประสงค์หลักได้อีก 2 ประเภท คือ:
ร้อยไหมเพื่อการยกกระชับ (Lifting Threads): เน้นการใช้ไหมที่มีเงี่ยงหรือกรวยเพื่อดึงและยกผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น เหมาะสำหรับปัญหาแก้มห้อย, กรอบหน้าไม่ชัด หรือคิ้วตก
ร้อยไหมเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulating Threads): เน้นการใช้ไหมเส้นเล็กแบบเรียบเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวดูฟูขึ้น, ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
การเลือกประเภทของการร้อยไหมที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข และเลือกชนิดของไหมที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
การร้อยไหมเหมาะกับใคร?
การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ:
ยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย: โดยเฉพาะบริเวณแก้ม, ร่องแก้ม, มุมปาก และลำคอ
แก้ไขปัญหาคิ้วตกหรือหางตาตก
ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีมิติ
ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ
ฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสดใสและแข็งแรงขึ้น

ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำ
แม้ว่าการร้อยไหมจะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง แต่สิ่งสำคัญคือการเลือก คลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ควรสอบถามเกี่ยวกับชนิดของไหมที่จะใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยในระยะยาว
การร้อยไหมจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัดที่ยุ่งยากและใช้เวลาพักฟื้นนาน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ที่ ชีวี คลินิก กรุ๊ป ทุกสาขา