ปัจจุบัน ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็มใบหน้าได้รับความนิยมอย่างมากในการช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มริ้วรอย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ เทคโนโลยีการผลิต และแหล่งกำเนิด บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์จากหลากหลายสัญชาติที่เป็นที่นิยมในตลาดความงาม
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ตามแหล่งต้นกำเนิดคือ ฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา และ ฟิลเลอร์จากเกาหลี
กลุ่มที่ 1: ฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา กลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนาน มักมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็คุ้มค่าในแง่ของคุณภาพ
1. Juvederm (จูวีเดิม)
ต้นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
ผู้ผลิต: Allergan Aesthetics, an AbbVie company
จุดเด่น: ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross Technology ทำให้โมเลกุลของ HA จับตัวกันอย่างหนาแน่น เนื้อเจลมีความเรียบเนียน ยืดหยุ่น และคงสภาพได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
รุ่นยอดนิยม:
Juvederm Voluma: เนื้อแน่นที่สุด เหมาะสำหรับการเติมแก้ม, คาง, ขมับ และสร้างกรอบหน้าให้ชัดเจน
Juvederm Volift: เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก และปรับรูปปากให้ได้สัดส่วน
Juvederm Volbella: เนื้อละเอียดและนิ่มที่สุด เหมาะสำหรับเติมใต้ตา หรือบริเวณที่มีผิวบาง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดก้อน
2. Restylane (เรสเทอเรน)
ต้นกำเนิด: สวีเดน
ผู้ผลิต: Galderma
จุดเด่น: เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยี NASHA และ OBT ทำให้ได้เนื้อเจลที่หลากหลาย ตั้งแต่เนื้อแข็งคงตัวจนถึงเนื้อยืดหยุ่นสูง
รุ่นยอดนิยม:
Restylane Lyft: เนื้อแข็งและคงตัวสูง เหมาะสำหรับการแก้ไขโครงสร้างใบหน้า เช่น เติมแก้มส้ม หรือเติมคาง
Restylane Kysse: เนื้อเจลละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาเพื่อเติมปากโดยเฉพาะ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสัมผัสได้เหมือนริมฝีปากจริง
Restylane Volume: เนื้อนุ่มฟูและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเพิ่มวอลลุ่มให้แก้ม, ขมับ และร่องแก้ม
Restylane Vital/Vital Light: เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน และลดริ้วรอยตื้นๆ
3. Belotero (เบโลเทโร)
ต้นกำเนิด: สวิตเซอร์แลนด์
ผู้ผลิต: Merz Aesthetics
จุดเด่น: ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถกระจายตัวเข้าสู่ผิวได้อย่างเรียบเนียน ไม่จับตัวเป็นก้อน
รุ่นยอดนิยม:
Belotero Soft: เนื้อนิ่มละเอียด เหมาะสำหรับเติมใต้ตาและริ้วรอยตื้นๆ บนใบหน้า
Belotero Intense: เนื้อแน่น คงตัวดี เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มลึก หรือปรับรูปปาก
Belotero Revive: เป็นฟิลเลอร์ประเภท Skin Booster ที่เน้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ดูฉ่ำวาว ลดความแห้งกร้าน
กลุ่มที่ 2: ฟิลเลอร์จากเกาหลี กลุ่มนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชีย เนื่องจากมีคุณภาพที่ดีได้มาตรฐาน และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
1. Neuramis (นิวรามิส)
ต้นกำเนิด: เกาหลีใต้
ผู้ผลิต: Medytox
จุดเด่น: ผลิตด้วยเทคโนโลยี SHAPE Technology ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตและขึ้นรูปฟิลเลอร์ 2 ขั้นตอน ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความคงตัวและประสิทธิภาพสูง
รุ่นยอดนิยม:
Neuramis Deep: เนื้อเจลที่ใช้สำหรับเติมร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก และบริเวณที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม
Neuramis Volume: เนื้อเจลที่มีความหนาแน่นสูง เหมาะสำหรับเติมคางและแก้ม
2. Flore (ฟลอเร่)
ต้นกำเนิด: เกาหลีใต้
ผู้ผลิต: M.C.E. Co., Ltd.
จุดเด่น: มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
รุ่นยอดนิยม:
Flore Aqua-S: เหมาะสำหรับเติมใต้ตาและบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้น
Flore Max: เนื้อเจลแน่น เหมาะสำหรับเติมแก้ม, คาง และร่องลึกบนใบหน้า
3. Yvoire (อีโวร์)
ต้นกำเนิด: เกาหลีใต้
ผู้ผลิต: LG Chem
จุดเด่น: ผลิตด้วยเทคโนโลยี HICE Cross-link ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและคงตัวได้ดี มีความบริสุทธิ์สูงและมีความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้น้อย
รุ่นยอดนิยม:
Yvoire Classic: เนื้อเจลที่ใช้สำหรับเติมร่องลึกปานกลาง และเติมเต็มใบหน้า
Yvoire Contour: เนื้อเจลที่มีความหนาแน่นสูง เหมาะสำหรับเติมคางและแก้ม
คำแนะนำเพิ่มเติม
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ชนิดของฟิลเลอร์, ตำแหน่งที่ต้องการฉีด, สภาพผิว, งบประมาณ และที่สำคัญที่สุดคือ ความน่าเชื่อถือของคลินิกและแพทย์ผู้ทำการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้มีประสบการณ์และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจและปลอดภัยในระยะยาว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ที่ ชีวี คลินิก กรุ๊ป ทุกสาขา